การ ซื้อเฟอร์นิเจอร์เพื่อตกแต่งบ้านนั้น จุดสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงก็คือ ความสมดุลภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความมืดสว่าง หรือ ขนาดของเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับพื้นที่ของห้อง โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่อย่าง “ตู้โชว์”
ตู้โชว์ ส่วนใหญ่มักจะวางเอาไว้ด้านหน้าของบ้าน บริเวณห้องรับแขก ซึ่งมักจะอยู่ส่วนกลางของบ้าน เพื่อแบ่งพื้นที่ในการใช้สอยให้เป็นสัดส่วน ไม่ปล่อยให้บ้านดูโล่งเกินไป เช่น แบ่งส่วนห้องรับแขก กับโต๊ะอาหาร เป็นต้น การเลือกซื้อตู้โชว์มาวางในตำแหน่งกลางบ้านนั้น จุดสำคัญจะต้องเลือกแบบตู้โชว์ให้เหมาะสมกับห้องเสียก่อน ซึ่งแบบของตู้โชว์ส่วนใหญ่ก็จะแบ่งออกได้เป็นแบบทึบกับแบบโปร่ง เพราะการเลือกตู้โชว์ 2 ลักษณะนี้ มีผลในทางฮวงจุ้ยที่แตกต่างกัน
ตู้โชว์แบบทึบ จะเหมาะกับห้องที่มีขนาดใหญ่ เพราะความทึบของตู้จะไม่ทำลายความสมดุลภายในห้อง โดยเฉพาะเรื่องของแสงสว่าง นอกจากนี้ ตู้โชว์ทึบยังเหมาะที่จะใช้แก้ไขกรณีที่แบบบ้านมีลักษณะที่ผิดฮวงจุ้ย เช่น มีบันไดหันมาทางหน้าบ้าน หรือมีประตูหน้าประตูหลังบ้านตรงกัน
ตู้โชว์แบบทึบเหมาะกับห้องที่กว้าง และใช้ในกรณีแก้ฮวงจุ้ยได้อีกด้วย
ตู้โชว์แบบโปร่ง จะเหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็ก อย่างบ้านทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ห้องกว้างไม่เกิน 5 เมตร เพราะตู้โชว์แบบโปร่งจะทำให้ห้องดูไม่มืดทึบ ยังคงความสมดุลภายในห้องเอาไว้ได้
กรณีที่บ้านต้องการแบ่งพื้นที่ของห้องต่าง ๆ ให้ได้สัดส่วน เช่น แบ่งห้องรับแขกกับห้องอาหาร หรือแบ่งเตียงนอนกับพื้นที่แต่งตัว ก็สามารถที่ใช้ตู้โชว์แบบครึ่งท่อน จะดูเหมาะสมกว่า เพราะตู้แบบนี้ จะให้ความรู้สึกโล่ง ดูแล้วไม่ทึบหรือขวางห้อง แต่ไม่ควรใช้กรณีที่แบบบ้านผิดหลักฮวงจุ้ย เช่น ประตูตรงกัน เป็นต้น
ประโยชน์ของตู้โชว์นอกจากการแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้เป็นสัดส่วนแล้ว ในทางฮวงจุ้ยยังบอกเอาไว้ว่า ตู้โชว์ยังเป็นตัวสร้างจุดเด่นให้กับบ้านอีกด้วย การปล่อยบ้านให้โล่ง มองจากหน้าบ้านเห็นหลังบ้านเลย ทำให้บ้านไม่มีจุดเด่น การมีตู้โชว์ตั้งเอาไว้ก็เพื่อให้คนที่เดินเข้าบ้านได้มองเห็นก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ตู้โชว์ก็ควรมีของโชว์ด้วย ไม่ใช่มีแต่งตู้เปล่าๆ
ที่มา http://magazine.ps.co.th/